
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.64 ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ cv-19

เนื่องจากโรงงานผลิตรถยนต์บางแห่งขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิปในรถยนต์ อย่างกรณีของบริษัทโตโยต้าต้องหยุดชั่วคราว เนื่องจากพนักงานของผู้ผลิตชิปในรถยนต์ติด cv-19 ต้องปิดโรงงาน ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าป้อนให้กับโตโยต้า

เดิมอุตสาหกรรมรถยนต์มีการขยายตัวตามลำดับแม้จะอยู่ในช่วง cv-19 โดยเฉพาะการส่งออก แต่ขณะนี้เริ่มกังวลในเรื่องขาดเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ขณะที่การนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านก็เจอการล็อกดาวน์ ดังนั้นบางแห่งสต๊อกสินค้าจึงไม่พอ และคาดว่าปัญหานี้จะยังคงมีถึงปีหน้า ซึ่งก็เป็นรถยนต์บางรุ่นเท่านั้นที่ผลิตไม่ได้ตามออเดอร์ นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จะยุติการผลิตชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 28 กรกฎาคม โดยทางบริษัทจะประเมินอีกครั้งในวันที่ 29 กรกฎาคมว่าจะดำเนินการผลิตได้หรือไม่ เนื่องจากการผลิตรถยนต์ต้องใช้ชิ้นส่วนจากโรงงานภายนอกประเทศบางส่วน รวมถึงโรงงานในประเทศ แต่บางแห่งถูกปิดเนื่องจากพบการติด cv-19

สำหรับกำลังการผลิตของโรงงานในไทย ปีละ 760,000 คัน แต่ในปีที่ผ่านมา ผลิตเพียง 440,000 คัน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นฮับการผลิตรถยนต์อันดับสาม รองจากจีนและสหรัฐ
การยุติผลิตครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 จากผลกระทบ cv-19 โดยโรงงานเคยยุติการผลิตชั่วคราวเมื่อครั้ง cv-19 ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563 โดยโรงงานในไทยผลิตรถยนต์นั่งรุ่นโคโรลลา และรถปิ๊กอัพไฮลักซ์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตหลักในไทย โดยครึ่งหนึ่งจำหน่ายในประเทศและส่วนที่เหลือส่งออกแม้ว่าโรงงานผลิตรถยนต์ไม่ได้ถูกสั่งปิด เหมือนกับในมาเลเซีย แต่จากผลการทบจากชิ้นส่วนทำให้ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้

No comments